Sleeping Mask เป็นสกินแคร์อีกชิ้นนึงที่คนรักผิวต้องมี เพราะพวกเทอเหล่านี้มักโหยหาบำรุงที่มากกว่าการทาครีมธรรมดาไปแล้ว ใช่ค่ะ แจ๊คก็อีกคนนึงที่ต้องใช้ Sleeping Mask มาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัย ไม่นานมานี้หรอกแก ด้วยความที่เพิ่งรู้ตัวว่า เห้ยยยย ในกรุเรามีพวกนี้เยอะอยู่นะ เอาตัวที่ราคามันใกล้ๆกันมารีวิวรวมๆให้ดูละกัน ใช้เวลาอยู่นานเหมือนกัน เพราะต้องทาหลายตัว และหลายๆครั้งต่อตัว จนแน่ใจว่าฟีลไหนนะคะ
แต่ขอออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอะไรนะคะ รีวิวตามความรู้สึกส่วนตัว 4ตัวนี้ก็มีทั้งซื้อเองและทางแบรนด์ให้มาลองค่ะ มาดูกัน 4 ตัวที่ว่ามีไรบ้าง
- Dr.GL Restore Gel Mask
ขอเกริ่นให้ฟังก่อนว่า แบรนด์นี้มีที่มาที่ไปยังไง เพราะหลายคนอาจไม่คุ้นหูคุ้นตา Dr.GL เป็นแบรนด์ที่เค้าเพิ่งนำเข้ามาในไทยไม่นาน แบรนด์ถูกก่อตั้งจากคุณหมอผิวหนังท่านหนึ่งจากสิงคโปร์ นามว่า จอร์เจีย ลี เค้าเลยเอาชื่อตัวเองนี่แหละมาตั้งชื่อแบรนด์ ฟีลน้ำจิ้มไก่ตราแม่ประนอม หรือขนมเปี๊ยะครูสมทรง ไรงี้ จริงๆในแบรนด์เค้าก็มีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมายเลยนะคะ แจ๊คเคยไปร่วมงานตอน Launch จากสไลด์ต่างๆแบรนด์มีความพิถีพิถันในการผลิตมากกกกกก
ตัว Restore Gel Mask เป็นตัวที่ได้รับรางวัลจากนิตยสารมากมายในสิงคโปร์ เรียกว่าเป็นนางเอกของแบรนด์ก็ได้ ตัวขวดเป็นพลาสติก เนื้อเจลใสสีเขียว Emerald สีเดียวกับขวดนางเดะ ตามคำเคลมของแบรนด์คือ คืนความสมดุลย์ให้กับผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยในการปลอบประโลมผิวทั้งจากสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด มลภาวะต่างๆ ลดความแดงและแห้งที่เกิดจากอาการระคายเคือง
อันที่จริงวิธีใช้เค้าบอกให้ทาทิ้งไว้ครึ่งชม.และเช็ดออก หรือใช้ก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างก็สามารถ ความรู้สึกตัวเจลพอเกลี่ยไปบนผิว ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เย็น ไม่ร้อน ไม่แสบ และตัวเจลไม่ข้น ออกจะเหลวเมื่อสัมผัสถูกผิว มีกลิ่นหอมแนว Botanic สมุนไพร หรือหญ้าซัมติง ทาไปประมาณครึ่งชม ตัวเจลจะหนึบติดไปกับผิวค่ะ ไม่กองบนผิว สังเกตจากรูปเจลจะไม่หนา
ส่วนตัวชอบเลย เพราะใช้หลังโดนแดดดีมากกกกก ให้ฟีลปลอบประโลมผิว ฟีลเหมือนอะโลเวร่า โดนแดดมาจัดๆทาตัวนี้หน้าไม่แดง แต่ใช้แล้วไม่เห็นผลเรื่องความชุ่มชื้น นางไม่ช่วยเรื่องนี้แค่นั้น เหมาะกับพกไปเที่ยวตจว. ไปทะเลมาก เพราะเป็นพลาสติก เบาๆค่ะ
ราคา : 1,250- / 100 ml.
พิกัด : เค้าเตอร์ Dr.GL เซนทรัลชิดลมและบางนา
2. Biotherm Life Plankton Mask
หลังจากตัว Life Plankton Essence ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เทย่าโรเจอร์(ไม่เกี่ยว) เรียกว่านางก็ต้องมีโปรดักส์ในไลน์นี้มาลิ้งค์ขายต่อแหละเนาะ เป็นการต่อยอด ไม่ต้องอธิบายไรมากถึงแบรนด์ไบโอเธิร์ม นางเคลมโปรดักส์ว่า …นวัตกรรมการฟื้นบำรุงผิวยามค่ำคืนที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเนื้อสัมผัสแบบ essence in mask มอบความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวอย่าง ล้ำลึก ให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส เนียนนุ่มจนคุณสัมผัสได้เมื่อตื่นรับวันใหม่ มาพร้อมแอพพลิเคเตอร์ ที่ออกแบบเป็นพิเศษ (Wrapping Applicator) โดยได้รับการออกแบบมาให้ปรับเข้ากับความสูง-ต่ำของพื้นผิวใบหน้าได้ดี
จากเนื้อผลิตภัณฑ์จะมีความหนึบๆและคงตัวมากๆ เป็นเจลขุ่นๆสีขาว กลิ่นเดียวกันกับ Life Plankton Essence ค่ะ ที่เก๋ นางมาพร้อมกับ Applicator เป็นตัวช่วยในการทา คือไม่ใช่เอามือจกๆลงไปนะจ้ะ ไฮโซเค้ามีแปรงไม้พายให้ หัวเป็นยาง เวลาใช้จุ่มแปรงลงไปในกระปุก ยกขึ้นมา แล้วทาได้ทั้งหน้าเลยค่ะ ฟีลเหมือนแปรงลงรองพื้นแต่เป็นยางนุ่มๆ ใช้เสร็จก็ล้างง่ายๆ
ส่วนตัวหลังทา รู้สึกแสบร้อนที่หน้าประมาณ 3-5 นาทีแล้วก็จะหายแสบ ตอนแรกตกใจนะว่าแพ้รึเปล่า แต่ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ ใช้มาซักพักแล้ว ชอบความฉ่ำของเนื้อ เนื้อหนัก แต่ทิ้งไว้พักใหญ่ๆก็ซึมหนึบเข้าหน้าหมดนะคะ มีความหนึบๆแต่ไม่กอง เห็นผลดีมากในเรื่องความชุ่มชื้น
ราคา : 2,100- / 75 ml.
พิกัด : เค้าเตอร์ Biotherm / ผ่าน Lazada -> Biotherm Life Plankton Mask (ถูกกว่าเค้าเต้อร์)
3. Kiehl’s Ultra Facial Overnight Hydrating Masque
แบรนด์คีลส์เข้าไทยมานานนมแล้ว บางคนอาจจะเคยใช้บ้างเนาะ สกินแคร์ของแบรนด์นางมีเป็นร้อยเป็นพันชิ้น เดินเข้าไปแล้วต้องทำหน้างงอ่ะ เพราะเยอะมากๆ ไม่มินิมอลนะคะ สำหรับตัวนี้เค้าเคลมว่า ช่วยดูดซับความชุ่มชื้นและอุ้มน้ำของผิวทันที เพื่อเติมน้ำหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่องด้วยสารสกัดจากรากหนวดปลาดุก (Ophiopogon Jaonicus Extract) หรืออีกชื่อคือ Fountain Plant ปกป้อง เสริมความแข็งแรงให้ปราการคุ้มกันผิว นุ่มชุ่มชื้น ถ้าใครชอบปลูกต้นไม้คงจะนึกออกว่าหน้าตาหนวดปลาดุกเป็นยังไง ส่วนมากเค้าจะเอาไว้จัดสวน คลุมหน้าดิน หรือแทรกตามทางเดิน ตามหินไรงี้ ขายส่งต้นละบาทสองบาท วั้ยยย
จากรูปจะเห็นว่าเนื้อเป็นสีขาวขุ่น ข้น คงตัว ไม่มีกลิ่นค่ะ วิธีใช้ตามที่คีลส์บอกคือ ทาทิ้งไว้ 10 นาทีหลังล้างหน้า แล้วใช้กระดาษเช็ดหน้าเช็ดส่วนเกินออก แจ๊คลองทั้งเช็ดและไม่เช็ด(เพราะเสียดายของ) อยากให้อยู่บนหน้านานๆ
ความรู้สึกหลังใช้ แสบอีกแล้วจ้า ง๊งงง ทาพวกนี้ทีไรแสบตลอด แต่แสบไปได้แปปเดียวก็หายค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่แดงหรือแพ้อะไร ตัวนี้ทาแล้วหนึบเกาะหน้ามาก ถ้าไม่ได้เช็ด จะหนึบไปถึงเช้าเลยค่ะ ถ้าไม่เผลอเอาหน้าไปถูหมอนหมดนะ ให้ความชุ่มชื้นดีมากกกกกก หน้าฉ่ำมาก
ราคา : 1,550- / 125 ml
พิกัด : เค้าเตอร์ Kiehl’s
4. Laneige Water Sleeping Pack Mask
เป็นตัวที่ฮอทฮิตของแบรนด์นาง เรียกว่าขายดีที่สุดแหละ นางเคลมว่า
โอเวอร์ไนท์มาส์กตัวแรกแห่งวงการเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นมาร์กที่สามารถทาทิ้งไว้ตลอดคืนโดยไม่ต้องล้างออก ด้วยคุณสมบัติเนื้อเจลบางเบาสีฟ้าใส ที่ให้ความชุ่มชื่นอย่างสูงสุด และ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ด้วยการปรนนิบัติผิวอย่างล้ำลึก ให้เนื้อ เจล ค่อยๆซึมลึกเข้าสู่ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งบำบัดสภาพจิตใจให้คุณรู้สึกผ่อนคลายนอนหลับสนิทยิ่งขึ้น ด้วยกลิ่น อโรมาหอมอ่อนโยน ทำให้คุณมีความสุขในขณะที่นอนหลับยิ่งขึ้น โอ้โหหหห
อันนี้แจ๊คซื้อจากดิวตี้ฟรีที่เกาหลี ในดิวตี้ฟรีทั้งไทยและเกาหลีจะมีขายเป็นแพ๊คคู่ แพคสี่ คือหารต่อชิ้นแล้วถูกมาก (ถ้าเทียบกับซื้อเค้าเต้อร์ไทยเดี่ยวๆ) เนื้อเจลที่เราสังเกตเห็นจะบาง สีฟ้าอ่อนๆ มีกลิ่นเย็นๆ บางๆไม่เตะจมูก
ทาแล้วหน้าจะชุ่มมากๆ คือฟีลเหมือนเราทาม้อยเจอร์หนักๆแต่เป็นลักษณะเจล ไม่แสบ ไม่ร้อน ทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้โดยไม่ต้องล้าง ตื่นมาตัวเจลจะยังกองอยู่บนหน้าอยู่ ส่วนตัวชอบมาก เอาจริงๆใช้มาหลายกระปุกละแก (ใช้จนเบื่อ ก็พยายามหาตัวอื่นมาลอง แต่ตัวนี้คือก็ต้องมีติดไว้ในตู้เย็นนะ มีแล้วสบายใจ -*-)
ราคา : 1,150- / 70 ml (เค้าเตอร์ไทย)
พิกัด : เค้าเตอร์ Laneige
สุดท้ายบอกเลยว่าการใช้ Sleeping Mask สำหรับแจ๊ค มันจะช่วยให้ผิวดูดีขึ้นในระยะสั้น คืออย่างเช่นวันรุ่งขึ้นจะต้องแต่งหน้าแต่หน้าไม่ค่อยสดใส หรือ หน้าไม่ชุ่มชื้น แบบที่เค้าเรียกผิวขาดน้ำ ทาแป้งไม่ติดหน้า มันก็ช่วยได้ชัดเจน หรือแม้แต่ไปโดนแดดมาจัดๆ การใช้พวกนี้ก็จะช่วยให้ผิวไหม้แดงลดลง เพราะส่วนมากมันจะส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวต่างๆไว้
แต่ใครจะหวังว่าจะเห็นผลในระยะยาวนั้น แจ๊คว่ามันไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้น ต้องหมั่นใช้ครีมบำรุงต่างๆ ครีมกันแดด รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของคุณด้วยนะคะ สรุปเลย ที่เอามาให้ดูกันในรีวิวนี้ คือปลาบปลื้มทุกตัว รักพี่เสียดายน้อง เลือกเอาตามที่ชอบๆละกันจ้า